นิสัย - พลังที่จะทำให้คุณเป็นที่ดีขึ้น
วันๆของเราเต็มไปด้วยกิจวัตรหรือสิ่งที่เราทำไปโดยไม่คิด ประมาณ 50%ของสิ่งที่เราทำเป็นไปโดยอัตโนมัติและนิสัยเหล่านี้มักจะทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น
ส่วนใหญ่เราเคยตระหนักถึงนิสัยของเราซึ่งนิสัยนั้นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่เราทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา นิสัยที่ดีเป็นรากฐานของการมีสุขภาพดีในขณะที่นิสัยที่ไม่ดีสามารถขัดขวางเป้าหมายที่จะมีหุ่นที่ดีและเป้าหมายชีวิตได้

กิจวัตรคืออะไร?
นิสัยคือการกระทำพฤติกรรมหรือกิจวัตรที่คุณทำซ้ำๆ มักจะเป็นไปโดยอัตโนมัติและสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น
นิสัยจะก่อตัวขึ้นเมื่อการกระทำหรือการทำพฤติกรรมซ้ำๆ กันและกลายเป็นกิจวัตร สาเหตุของกิจวัตรนี้คือสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการกระทำหรือพฤติกรรม ตัวอย่างเช่นการรับประทานของหวานในช่วงบ่ายอาจเกิดขึ้นได้จากเวลาความรู้สึก (เช่นความเบื่อหน่าย) หรือสถานที่ (เช่นโซฟาของคุณ)
การให้รางวัลตัวเองเมื่อเราได้รับความรู้สึกเชิงบวกหลังจากบางสิ่งบางอย่าง เราก็มีแนวโน้มที่จะทำมันอีกครั้ง โดยปกติรางวัลจะอยู่ในระยะสั้นและอาจเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่การตอบสนองความอยากไปจนถึงการหลีกเลี่ยงสิ่งที่คุณไม่อยากทำ เมื่อทำซ้ำแล้วซ้ำเล่านิสัยนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของคุณ นิสัยเหล่านี้คุณอาจจะในบางสถานการณ์เท่านั้น ตัวอย่างเช่น คุณอาจกัดเล็บเมื่อคุณเครียด

ทำไมนิสัยถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ?
นิสัยสามารถช่วยเราทำอะไรได้หลายอย่าง ลองนึกภาพถ้าคุณต้องคิดถึงทุกสิ่งที่คุณทำ นิสัยช่วยให้เราสามารถทำงานหลายอย่างได้เช่นเวลาเราทำบางสิ่งโดยอัตโนมัติอยู่แต่เราก็ยังสามารถไปโฟกัสสิ่งอื่นได้ด้วย ตัวอย่างเช่นเราอาจจะจำความทรงจำส่วนหนึ่งระหว่างการเดินทางไปทำงานไม่ได้เพราะว่าขณะนั้นเรากำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งอื่นอยู่
นิสัยสามารถประหยัดความพยายามและประหยัดพลังงานได้ willpower เมื่อบางสิ่งบางอย่างกลายเป็นนิสัย (เช่นออกกำลังกายกลายเป็นกิจวัตรการของคุณ) มันง่ายกว่าที่จะกระตุ้นให้ตัวเองต้องทำ
นอกจากนี้สุขภาพความแข็งแรงและจิตใจของคุณเชื่อมโยงกันดังนั้นนิสัยที่ดีในด้านหนึ่งจะช่วยคุณในเรื่องอื่นๆ เนื่องจากนิสัยที่ดีนั้นเป็นการกระทำหรือเป็นพฤติกรรมที่ดีซ้ำๆ มันจะช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้นและทำให้เป้าหมายของคุณง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่นนิสัยการตื่นนอนและการทำงานเร็วจะทำให้คุณมีเวลามากขึ้นในการทำงาน
สร้างนิสัยที่ดีขึ้น

เพื่อปรับปรุงนิสัยของเราเราต้องทำลายหรือเปลี่ยนวงจรของกิจวัตร→สิ่งกระตุ้น→ของรางวัล ทำตามห้าขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเปลี่ยนนิสัยของคุณเพื่อปรับปรุงอาหารการออกกำลังกายและชีวิตของคุณ
ขั้นตอนที่1: ตั้งเป้าหมายแล้วเขียน
กำหนดเป้าหมายเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการปรับปรุงหรือทำให้มันสำเร็จ ระบุเจาะจงให้ชัดเจน
ตัวอย่างเช่น : “ฉันจะลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัมใน 1 เดือน” ดีกว่า คำว่า “ฉันจะลดน้ำหนัก” เนื่องจากคุณสามารถวัดความสำเร็จของคุณได้ง่ายขึ้น
เขียนเป้าหมายและทำมัน การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคุณมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้นเมื่อคุณจดเป้าหมาย
คลิ๊ก (ที่นี่) เพื่อเรียนรู้วิธีการ set goals
ขั้นตอนที่2 : ระบุนิสัยที่ไม่ดีเพื่อเปลี่ยนแปลงและสร้างนิสัยที่ดี
ลิสนิสัยที่ดีที่ต้องสร้างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เลือกมาหนึ่งอย่างที่คุณสามารถเริ่มต้นได้เร็วที่สุดและมีผลกระทบมากที่สุดและสำคัญที่สุดในการบรรลุเป้าหมายของคุณ
เมื่อใช้เป้าหมายข้างต้น “ฉันจะลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัมใน 1 เดือน” นี่คือตัวอย่างของนิสัยที่ดีที่คุณสามารถสร้างได้
- ออกกำลังกาย30นาทีเป็นประจำทุกวัน
- กินขนมน้อยลงและกินขนมเพื่อสุขภาพมากขึ้น
- ดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มผสมน้ำตาล
ตอนนี้เขียนรายการนิสัยที่ไม่ดีที่จะมีผลต่อการสร้างนิสัยที่ดีของคุณ เลือกนิสัยที่ไม่ดีอย่างหนึ่งที่จะมีผลมาที่สุดในการสร้างนิสัยที่ดีและมีผลต่อการไปถึงเป้าหมายที่สุด
ตัวอย่างเช่นหากคุณต้องการสร้างนิสัยที่ดี:“ทำกิจวัตรการออกกำลังกาย 30 นาทีทุกวัน”และนี่เป็นนิสัยที่ไม่ดีที่อาจทำให้เกิดความยากลำบากได้ (ตัวอย่างที่ระบุเป็นตัวเอียง)
การกินอาหารขยะที่ทำให้คุณรู้สึกไม่กระฉับกระเฉง<em>(เช่น : การกินอาหารที่มีน้ำตาลมากในช่วงบ่าย)</em>
- การกินอาหารขยะที่ทำให้คุณรู้สึกไม่กระฉับกระเฉง(เช่น : การกินอาหารที่มีน้ำตาลมากในช่วงบ่าย)
- ผัดวันประกันพรุ่งแทนที่จะเริ่มออกกำลังกาย(เช่น : ดูทีวีในตอนบ่ายแทนที่จะออกกำลังกาย)
- ไม่วอร์มอัปหรือยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย
เขียนเก็บทั้งลิสการสร้างนิสัยที่ดีและลิสการปรับปรุงนิสัยที่ไม่ดีไว้ เมื่อคุณทำได้แล้วให้ทำต่อไปเรื่อย ๆ และจะดีที่สุดถ้าคุณเลือกทำทีละข้อเพื่อให้สามารถโฟกัสและสร้างความมุ่งมั่นให้มากขึ้น
ขั้นตอนที่ 3 : คิดว่าจะให้รางวัลอะไรกับตัวคุณเอง
เลือกรางวัลเพื่อช่วยคุณกระตุ้นให้ทำอะไรใหม่ๆและสร้างนิสัยใหม่ๆ รางวัลอาจเป็นอะไรก็ได้แต่พยายามหลีกเลี่ยงการให้รางวัลตัวเองด้วยสิ่งที่ขัดต่อเป้าหมายของคุณ (เช่น : อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพหลังออกกำลังกายหากคุณกำลังพยายามลดน้ำหนัก) นอกจากนี้อย่าลืมให้รางวัลตัวเองหลังจากที่คุณทำจนเป็นนิสัยจริงๆเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น : ถ้านิสัยใหม่ของคุณคือการออกกำลังกาย รางวัลอาจจะเป็นฟังรายการเพลงโปรดของคุณ หรือการถ่ายรูปตัวเองหลังจากออกกำลังกายเมื่อคุณรู้สึกดีและมีหุ่นที่ดีขึ้น
ลองนึกถึงการให้รางวัลตัวเองที่สนับสนุนนิสัยที่ไม่ดีทำให้คุณรู้สึกอะไร คุณอาจรู้สึกถึงความรู้สึกในเชิงบวกในระยะสั้น (เช่น : รสชาติของอาหาร) หรือสามารถหนีจากความรู้สึกเชิงลบในระยะสั้น (เช่น : ความเบื่อหน่ายน้อยลง) อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ค่อยน่าพึงพอใจในระยะยาว คุณอาจจะพบว่ารางวัลสำหรับการมีนิสัยที่ดีจะทำให้คุณพึงพอใจมากขึ้นในระยะยาว คุณจะพบว่าการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่ออาหาร, การออกกำลังกายหรือการใช้ชีวิตของคุณจะทำให้คุณมีสุขภาพดีและแข็งแรงขึ้น

ขั้นตอนที่ 4 : ค้นหาสิ่งกระตุ้นที่เหมาะกับนิสัยของคุณ
ตอนนี้คุณต้องหาสาเหตุที่จะช่วยหรือขัดขวางความก้าวหน้าของคุณ ตอบคำถามห้าข้อนี้เกี่ยวกับสิ่งกระตุ้นที่เหมาะกับนิสัยของคุณ :
- เวลาเฉพาะของวัน - เมื่อไหร่ที่คุณทำจนเป็นนิสัย
- สถานที่ - คุณจะทำที่ไหน
- อารมณ์ความรู้สึก - คุณทำนิสัยแบบนั้นเพราะรู้สึกอย่างนั้นหรือไม่?
- ต่อหน้าคนอื่น - คุณทำเพราะคุณอยู่กับคนอื่น ๆ หรือไม่
- การกระทำหรือเหตุการณ์ก่อนหน้า - คุณทำหลังจากมีบางสิ่งเกิดขึ้นหรือไม่?
พยายามเจาะจงให้มากที่สุด หากคุณยังไม่แน่ใจในตอนนี้ให้รอจนกว่าคุณจะทำนิสัยที่ไม่ดีในครั้งต่อไปและเขียนคำตอบลงไปทันที สิ่งกระตุ้นทั้งห้าข้ออาจไม่เกี่ยวข้องกับคุณ ดังนั้นคุณอาจไม่มีคำตอบสำหรับทุกข้อ
ยกตัวอย่างนิสัยที่ไม่ดี :<em>’การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงในช่วงบ่าย’ </em>ตัวอย่างดังต่อไปนี้:
- เวลา - ขนมของคุณทุกวัน ช่วงบ่าย3โมง
- สถานที่ - กินขนมเวลาพักผ่อนบนโซฟา
- อารมณ์ - กินขนมเพราะว่าคุณรู้สึกเบื่อ
- คนอื่น - กินขนมเพราะคนอื่นกินเรยกินด้วย
- การกระทำหรือเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ - กินขนมเมื่อได้พักจากการทำงาน
เก็บข้อมูลนี้ไว้เพราะคุณจะต้องใช้ในการวางแผน
ขั้นตอนที่ 5 : ใช้สิ่งที่กระตุ้นนิสัยเพื่อสร้างแผน
เขียนวิธีที่คุณสามารถเอาชนะสิ่งกระตุ้น (จากขั้นตอนที่สี่) โดยใช้ข้อความ “ฉันจะ ” ยกตัวอย่างการใช้นิสัยที่ไม่ดี<em>’การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงในช่วงบ่าย’</em>
- เวลา - ฉันจะกินอาหารกลางวันเพื่อสุขภาพและดื่มน้ำมากๆ คุณอาจพบว่าคุณไม่รู้สึกหิวในช่วงเวลาบ่ายสามโมง ในกรณีที่คุณทำเตรียมของว่างเพื่อสุขภาพไว้
- สถานที่ - ฉันจะตั้งนาฬิกาปลุกเป็นเวลา 1500 น (หรือเล็กน้อยก่อนที่คุณจะทำนิสัยที่ไม่ดี) เพื่อให้ตื่นและตื่น * - อย่าอยู่ในที่ที่เราเคยชินที่จะทำนิสัยแย่ๆ การพักและขยับร่างกายสามารถช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่าและรู้สึกมีแรงขึ้นได้
- อารมณ์ - ฉันจะหยุดพักตอนบ่ายสามโมงและทำอะไรที่กระตือรือร้นฉันจะได้ไม่เบื่อ
- คนอื่นๆ - ฉันจะนำของว่างที่ดีต่อสุขภาพมาทานกับเพื่อน ๆ ฉันจะบอกเพื่อนของฉันว่าฉันกำลังพยายามดูแลสุขภาพมากขึ้น
- กิจกรรมหรือกิจกรรมก่อนหน้านี้ - ฉันจะมีอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพและกระตือรือร้นเป็นเวลา 5 นาที ทันทีที่ฉันหยุดพักจากงาน
สร้างแผนและเตรียมพร้อม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าแม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกดีหรือพร้อมแล้ว แต่คุณอาจไม่มีความมุ่งมั่นหรือแรงผลักดันเมื่อคุณพยายามเปลี่ยนนิสัยจริงๆ

Check out our other fitness pages